หนึ่งในความสุขของการไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป ก็คือการได้ช้อปปิ้งของแบรนด์เนม เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอาง หรือแม้แต่ของฝากท้องถิ่นต่าง ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถขอ Tax Refund หรือ คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Refund) ได้ ซึ่งช่วยให้การช้อปปิ้งคุ้มค่ามากขึ้น ประหยัดเงินได้อีกหลายเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจวิธีการขอ Tax Refund ในยุโรปแบบง่าย ๆ พร้อมเคล็ดลับที่ทำให้คุณได้ประโยชน์สูงสุด
Tax Refund คืออะไร?

Tax Refund ก็คือการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่รวมอยู่ในราคาสินค้าในยุโรป ซึ่งปกติ VAT จะอยู่ที่ประมาณ 10–27% ขึ้นอยู่กับประเทศ เช่น
- ฝรั่งเศส: 20%
- อิตาลี: 22%
- เยอรมนี: 19%
- สเปน: 21%
นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้พำนักถาวรในยุโรป มีสิทธิ์ขอคืนภาษีนี้ได้เมื่อซื้อสินค้าเกินขั้นต่ำที่แต่ละประเทศกำหนด เช่น ฝรั่งเศสขั้นต่ำประมาณ €100 ต่อวัน/ร้าน
วิธีขอ Tax Refund ในยุโรป

เลือกซื้อร้านที่มีสัญลักษณ์ Tax Free
ก่อนซื้อให้มองหาป้าย “Tax Free” หรือสอบถามพนักงาน ร้านเหล่านี้จะมีระบบออกเอกสาร Tax Refund ให้คุณโดยตรง
ขอใบ Tax Refund Form
หลังจ่ายเงิน ให้ขอ “Tax Refund Form” หรือ “Tax Free Form” จากพนักงาน โดยต้องใช้พาสปอร์ตจริงหรือสำเนาเพื่อกรอกข้อมูล
เก็บใบเสร็จและสินค้าพร้อมกล่อง
ห้ามทิ้งใบเสร็จเด็ดขาด และควรเก็บสินค้าไว้ในสภาพใหม่ (บางครั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรอาจขอตรวจ)
ประทับตราที่สนามบินก่อนบินกลับ
ที่สนามบิน ให้ไปที่เคาน์เตอร์ Customs แล้วแสดงพาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน ใบเสร็จ และสินค้า จากนั้นเจ้าหน้าที่จะประทับตราในแบบฟอร์ม
รับเงินคืน
หลังได้ตราประทับแล้ว คุณสามารถไปที่เคาน์เตอร์บริษัท Tax Refund (เช่น Global Blue, Planet Tax Free) เพื่อรับเงินคืนเป็นเงินสด ยูโร ดอลลาร์ หรือให้โอนเข้าบัตรเครดิต
เงินคืนได้เท่าไหร่?

แม้ VAT จะสูง แต่เงินที่ได้คืนจะถูกหักค่าธรรมเนียมเล็กน้อย (ประมาณ 3–5%) ตัวอย่างเช่น:
- ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมราคา €1,000 ในปารีส (VAT 20%)
- VAT ที่รวมอยู่คือประมาณ €166
- หักค่าธรรมเนียมแล้ว อาจได้คืนจริงประมาณ €120–130
เคล็ดลับให้การขอ Tax Refund คุ้มค่าที่สุด

✨ รวมยอดซื้อให้เกินขั้นต่ำ
บางประเทศกำหนดยอดขั้นต่ำ เช่น €100 ต่อวันต่อร้าน ควรวางแผนซื้อหลายอย่างในร้านเดียวกัน เพื่อให้ได้สิทธิ์
✨ เผื่อเวลาในสนามบิน
การทำเรื่องคืนภาษีใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะสนามบินใหญ่ ๆ เช่น ปารีส หรือโรม ควรเผื่อเวลาเพิ่มอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
✨ เลือกรับเงินเข้าบัตรเครดิต
ถ้าไม่รีบใช้เงินสด การเลือกโอนเงินเข้าบัตรเครดิตจะสะดวกและปลอดภัยกว่า แม้จะใช้เวลาคืนเงิน 1–3 เดือน
✨ แยกของที่จะโหลดกับถือขึ้นเครื่อง
บางสินค้าต้องโชว์ต่อเจ้าหน้าที่ เช่น กระเป๋าหรือเสื้อผ้า ควรพกติดตัวจนกว่าจะได้ตราประทับ แล้วค่อยโหลดกระเป๋า
✨ เช็คกฎของแต่ละประเทศ
เพราะบางประเทศ เช่น เยอรมนี อาจเข้มงวดเรื่องการตรวจสินค้า ในขณะที่บางที่อย่างสเปนค่อนข้างง่าย
การช้อปปิ้งในยุโรปไม่เพียงแต่ได้ของคุณภาพดีและแบรนด์ดังระดับโลก แต่ยังสามารถ ขอคืนภาษี VAT ผ่านระบบ Tax Refund ได้ด้วย เพียงคุณวางแผนเล็กน้อย รู้ขั้นตอน และเผื่อเวลาในสนามบิน ก็จะทำให้คุณประหยัดเงินได้อีกหลายพันบาท
ดังนั้น คราวหน้าถ้าไปเที่ยวปารีส มิลาน หรือบาร์เซโลนา อย่าลืมเตรียมพาสปอร์ตและถามหาฟอร์ม Tax Free ทุกครั้งที่ซื้อของนะครับ บอกเลยว่าการช้อปปิ้งจะสนุกและคุ้มค่ามากกว่าเดิมแน่นอน

